🛢️ น้ำมัน (Oil)
-
วัน 17 พ.ย. 2025 Goldman Sachs ออกบทวิเคราะห์ชี้ว่า ราคาน้ำมันมีแนวโน้ม “ลดลง” ในปี 2026 เนื่องจากอุปทานน้ำมันโลกเพิ่มอย่างต่อเนื่อง คาดว่าราคา Brent crude เฉลี่ยอาจลดลงไปที่ ~ US$56/บาร์เรล และ WTI crude ~ US$52/บาร์เรล
แหล่งที่มา : Reuters
-
รายงานของ International Energy Agency (IEA) เดือนพฤศจิกายน 2025 แสดงให้เห็นว่าอุปทานน้ำมันโลกยังเพิ่มต่อเนื่อง และปริมาณสต็อก (inventories) ยังคงสูง สะท้อน “ภาวะอุปทานล้น (oversupply)” ที่อาจกดดันราคาในระยะกลางถึงยาว
แหล่งที่มา : IEA
-
ผลจึงทำให้เม็ดเงินในตลาดพลังงานเริ่มระมัดระวังมากขึ้น และราคาน้ำมันพบแรงกดดันจากมุมอุปทานเกิน demand ที่อ่อนลง แม้มีช่วงราคากระเตื้องขึ้นบ้างจากความหวังเศรษฐกิจหรือปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์
แหล่งที่มา : Reuters
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย
-
สำหรับอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานหนัก เช่น โรงงานเหล็ก/โลหะ ต้นทุนพลังงานอาจลดลง หากราคาน้ำมันดิบทรงตัวในระดับต่ำกว่าเดิม — ส่งผลดีต่อ margin การผลิต
-
แต่ความไม่แน่นอนของราคายังเป็นความเสี่ยง — ถ้าตลาดกลับ oversupply หรือ demand หด อาจมีแรงกดดันให้เกิดความผันผวน ราคาน้ำมัน/เชื้อเพลิงภายในประเทศอาจขึ้น-ลง ทำให้วางแผนต้นทุนได้ยาก
-
สำหรับภาคขนส่ง/โลจิสติกส์ ต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงอาจช่วยลดต้นทุนโดยรวม แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสที่ราคาพุ่งขึ้นก็ยังมี ถ้ามีข้อจำกัดด้านอุปทานหรือปัจจัยนอกควบคุม
🪙 ทองคำ (Gold)
-
วันที่ 20 พ.ย. 2025 ราคาทองคำโลกปรับลดลง หลังตลาดตอบรับตัวเลขงาน (jobs report) สหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด — ทำให้โอกาสที่ Federal Reserve (Fed) จะลดอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ลดลง และแรงซื้อทองคำในฐานะ “safe-haven” อ่อนตัวลงชั่วคราว
-
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังจับตาการเคลื่อนไหวค่าเงินดอลลาร์และปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค — ถ้าค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง หรือมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จะมีโอกาสที่ทองคำจะได้รับแรงหนุนอีกครั้ง
แหล่งที่มา : Reuters
🇹🇭 ผลกระทบต่อไทย
-
ราคาทองคำโลกลด อาจทำให้ทองคำแท่ง / เครื่องประดับทองในไทยถูกลง — ถ้าไม่มีปัจจัยค่าเงินบาทมากดดัน — เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภคไทยที่ซื้อทองเพื่อออม/ออมทรัพย์
-
แต่สำหรับนักลงทุนถือทองเป็นสินทรัพย์หลบภัย (safe-haven) อาจรู้สึกกังวล เพราะความผันผวนของราคาสร้างความไม่แน่นอน
-
ร้านทองและผู้ค้าทองคำในไทยอาจต้องระวังช่วงราคาทองแกว่ง — ถ้าขายเร็วเกินไปอาจเจอขาดทุน
🏗️ เหล็ก / เหล็กกล้า (Steel & Iron-ore context)
-
ช่วงปลาย พ.ย. 2025 มีข่าวว่า ราคาสินค้าหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเหล็กอย่าง Iron ore กลับได้รับแรงหนุน หลังมีความตึงตัวด้านสัญญาซื้อขายเหล็กระหว่างผู้ซื้อใหญ่กับผู้ผลิตหลัก ส่งผลให้ซัพพลายเหล็กดิบ (iron-ore) รัดกุมขึ้น — ซึ่งเป็นสัญญาณว่า แม้ demand เหล็กอ่อน แต่ต้นทุนวัตถุดิบเหล็กอาจไม่ถูกลงง่าย ๆ
แหล่งที่มา : Reuters
-
แม้อุตสาหกรรมเหล็กโลกยังเผชิญความท้าทายจากอุปสงค์ที่อ่อน เหล็กกล้าหรือเหล็กแปรรูปหลายชนิดยังถูกกดดันราคาโดยทั่ว ไป (ราคาตามดัชนีเหล็กระหว่างประเทศ vs ราคาวัตถุดิบ)
แหล่งที่มา : Trading Economics
🇹🇭 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทย
-
ผู้ผลิตเหล็กในไทยอาจเผชิญต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ถ้า iron-ore ราคาปรับขึ้นตามทิศทางโลก — ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูง และกำไรหดลง
-
ถ้าผู้ผลิตในไทยรับต้นทุนเพิ่มไม่ได้ อาจต้องปรับราคาขายส่งต่อ — ส่งผลต่อราคาก่อสร้าง/โครงสร้าง/ตลาดรับเหมาก่อสร้างภายในประเทศ
-
สำหรับผู้ใช้เหล็ก เช่น โครงการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน ผู้ซื้ออาจเจอราคาที่สูงขึ้น หรืออาจต้องรอการปรับราคา/การส่งมอบมากขึ้น
-
ในแง่บวก — ถ้าเหล็กนำเข้าได้รับผลกระทบจากมาตรการโลกหรือซัพพลายเหล็กดิบตึง — ผู้ผลิตเหล็กในไทยที่มีวัตถุดิบเพียงพอและควบคุมต้นทุนได้ดี อาจมีโอกาสกลับมามีบทบาทในประเทศ
หากสนใจสั่งซื้อ เหล็กแผ่นลาย ติดต่อเหล็กทรัพย์ ได้เลยค่ะ

