📰 ข่าวเศรษฐกิจ:
ราคาน้ำมัน–ทองคำ–เหล็กผันผวน สะท้อนความเปลี่ยนแปลงในตลาดโลก (1–7 ก.ย. 2025)
🛢️ น้ำมัน: ดีมานด์จีนยังอ่อน กดดันราคาตลาดโลก
ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลงเล็กน้อย หลังมีสัญญาณว่าความต้องการใช้น้ำมันของจีน—ผู้บริโภครายใหญ่—ยังไม่ฟื้นเต็มที่
-
Brent ปิดที่ราว $66–67/บาร์เรล
-
WTI ขยับใกล้ $64/บาร์เรล
📌 ปัจจัยบวกคือความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังพยุงราคา แต่แรงซื้อยังไม่มากพอจะดันขึ้นสูง
ผลกระทบต่อไทย: ราคาน้ำมันที่ไม่สูงนักช่วยลดแรงกดดันต้นทุนด้านพลังงานและขนส่ง แต่ผู้ประกอบการไทยยังต้องจับตาค่าเงินบาทและนโยบายพลังงานโลกที่อาจผันผวน
ที่มา : reuters
🪙 ทองคำ: นักลงทุนยังถือสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองคำโลกขยับขึ้นเล็กน้อยใกล้ระดับ 2,450 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดการเงินยังไม่มั่นใจทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ
-
Fed ส่งสัญญาณว่า อาจชะลอการปรับลดดอกเบี้ย เพื่อรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ
-
นักลงทุนยังคงมองทองคำเป็นที่พักความเสี่ยง
ผลกระทบต่อไทย: ราคาทองคำในประเทศยังแกว่งตามค่าเงินบาท เหมาะแก่การเก็งกำไรระยะสั้น แต่ร้านทองและผู้ค้าต้องบริหารสต็อกให้รอบคอบเพื่อลดความเสี่ยงขาดทุน
ที่มา : reuters
🏗️ เหล็ก: ผลิตเกิน–ส่งออกจีนกดดันตลาด
ตลาดเหล็กยังได้รับแรงกดดันจาก การผลิตส่วนเกินของจีน ที่ยังสูงเกินความต้องการ แม้รัฐบาลปักกิ่งจะพูดถึงการปรับลดกำลังผลิต แต่ผู้ประกอบการยังไม่มั่นใจ
-
ราคาส่งออกไปยังอาเซียนชะลอลง
-
ประเทศคู่ค้าเริ่มพิจารณามาตรการภาษีนำเข้าเพื่อปกป้องตลาดภายใน
ผลกระทบต่อไทย:
ธุรกิจเหล็กไทยยังต้องแข่งขันกับสินค้าราคาต่ำจากจีน ต้นทุนอาจไม่ลดลงเร็ว ผู้ประกอบการก่อสร้าง–อสังหาอาจเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ไม่แน่นอน
ที่มา : reuters
✅ สรุปแนวโน้มสัปดาห์ (1–7 ก.ย. 2025)
-
น้ำมัน: ราคายังอยู่ในกรอบแคบ ความต้องการจีนเป็นตัวแปรหลัก
-
ทองคำ: นักลงทุนยังถือทองคำเป็นที่พักความเสี่ยง แต่แรงหนุนจากดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังจำกัด
-
เหล็ก: ตลาดยังถูกครอบงำโดย supply ส่วนเกินของจีน กดดันราคาและผู้เล่นในอาเซียนรวมถึงไทย
หากสนใจสั่งซื้อเหล็ก EF หรือเหล็กรูปพรรณชนิดอื่นๆ ติดต่อเหล็กทรัพย์ ได้เลยค่ะ

