📰 ข่าวเด่นเหล็กโลก (10–16 พ.ย. 2025)
-
OECD เตือนปัญหา overcapacity เหล็กโลก
-
-
รายงานของคณะกรรมการเหล็ก OECD ระบุว่ามีกำลังการผลิตเหล็กส่วนเกิน (excess capacity) สูงมาก ซึ่งกระทบต่อเสถียรภาพตลาดเหล็กและผลกำไรของผู้ผลิตหลายประเทศ
-
การส่งออกเหล็กโดยจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของ overcapacity ที่ OECD เน้นว่าอาจทำให้ตลาดโลกเผชิญการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง
-
OECD ยังเตือนว่าความเกิน capacity จะทำให้การลงทุนในเหล็กลดการปล่อย คาร์บอน (decarbonisation) ยากขึ้น เพราะกำไรของโรงถลุงถูกกดจากอุปทานล้นและต้นทุนสูง
-
-
แหล่งที่มา : The Economic , steelradar , OECD
-
อังกฤษหนุนโรงถลุงเหล็ก Scunthorpe เปลี่ยนมาใช้เตา EAF
-
รัฐมนตรีธุรกิจอังกฤษ (Business Secretary) Peter Kyle สนับสนุนให้โรงถลุงของ British Steel ที่ Scunthorpe เปลี่ยนไปใช้ Electric Arc Furnace (EAF) เพื่อเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหล็กให้ยั่งยืนมากขึ้น
-
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน “transition” อุตสาหกรรมเหล็กในอังกฤษ ซึ่งอาจกระทบงานของโรงถลุงแบบเก่า (blast furnace) และแสดงถึงแนวโน้มการผลิตเหล็กที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
-
แหล่งที่มา : The Guardian
-
ต้นทุนโค้กเพิ่มในจีน
-
ข้อมูลจาก SMM (Shanghai Metal Market) ระบุว่าราคาถ่านโค้ก (coke) ถูกผลักขึ้น โดยผู้ผลิตโค้กหลัก ๆ ประกาศเพิ่มราคารอบใหม่ ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตเหล็กโดยเฉพาะโรงงานที่พึ่งโค้กเป็นวัตถุดิบหลัก
-
การเพิ่มต้นทุนโค้กอาจลดกำไรของโรงถลุงแบบเก่าที่ยังใช้ BF (Blast Furnace) และอาจกระตุ้นให้หลายโรงเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีที่ปล่อยคาร์บอนต่ำกว่า เช่น EAF
-
แหล่งที่มา : Metal
🌏 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย
-
การแข่งขันจากเหล็กจีน
-
ปัญหา overcapacity จากจีนที่ OECD เน้น อาจทำให้เหล็กราคาถูกจากจีนหลั่งเข้าสู่ตลาดโลก — ผู้ผลิตไทยอาจถูกกดดันให้ลดราคา
-
ไทยอาจต้องพัฒนาจุดแข็ง เช่น การผลิตเหล็กที่มีมูลค่าเพิ่ม (value-added) หรือเหล็ก “คาร์บอนต่ำ” เพื่อแข่งขันได้ในตลาดโลก
-
-
ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น
-
ราคาถ่านโค้กที่เพิ่มขึ้นจะกระทบต้นทุนการผลิตของโรงงานเหล็กไทย โดยเฉพาะโรงที่ยังใช้โค้กแบบดั้งเดิม (BF)
-
นี่อาจเป็นแรงผลักให้ผู้ผลิตไทยพิจารณาเทคโนโลยีใหม่ เช่น EAF เพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนโค้กที่สูงขึ้น
-
-
โอกาสเทคโนโลยีสะอาด (Low-Carbon)
-
แนวโน้มการใช้เตา EAF ในอังกฤษเป็นตัวอย่างชัดเจนว่าอุตสาหกรรมเหล็กโลกกำลังมุ่งไปทาง “เหล็กลดคาร์บอน”
-
ไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีเหล็กเขียว (หรือ low-carbon) เพื่อเพิ่มความสามารถแข่งขันและตอบโจทย์มาตรฐานโลก
-
-
แรงกดดันในการปรับกลยุทธ์ส่งออก
-
ถ้าเหล็กจีนส่งออกมาก + overcapacity ยังคงสูง ไทยอาจต้องหาตลาดส่งออกใหม่ (เช่นอาเซียน, ตะวันออกกลาง) หรือเน้นสินค้า premium ที่สามารถขายได้ในราคาสูงกว่า
-
📌 สรุป
ในช่วง 10–16 พ.ย. 2025 วงการเหล็กโลกยังเผชิญกับประเด็นใหญ่เรื่อง ** overcapacity** จากจีน และแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านไปยังการผลิตเหล็กลดคาร์บอน (EAF) โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสและความท้าทายสำหรับไทย — ไทยสามารถใช้จังหวะนี้เพื่อปรับกลยุทธ์ผลิตและส่งออกให้ทันโลกอนาคต
หากสนใจสั่งซื้อ เหล็กแผ่นลาย ติดต่อเหล็กทรัพย์ ได้เลยค่ะ

