📰 ข่าวสารเหล็กโลกล่าสุด (8–14 ก.ย. 2025)
-
สหภาพยุโรปเตรียมเสนอกลไกใหม่ควบคุมการนำเข้าเหล็ก
Ursula von der Leyen กล่าวในถ้อยแถลง “State of the Union” ว่า EU กำลังจะเสนอมาตรการทางการค้าแบบถาวรใหม่ๆ เพื่อจำกัดการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ เพื่อช่วยปกป้องผู้ผลิตในยุโรป โดยเฉพาะในช่วงที่มาตรการป้องกันเหล็กนำเข้า (steel safeguards) ปัจจุบันไม่สามารถยืดออกไปได้เกินกลางปี 2026
ที่มา : Reuters
-
อินเดียผลักดันผลิตเหล็กชั้นสูงเพื่อลดพึ่งพาการนำเข้า
รัฐบาลอินเดียประกาศสนับสนุนให้ผู้ผลิตเหล็กภายในประเทศขยายสายการผลิตเหล็กคุณภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีแผนสนับสนุนทั้งด้านนโยบายและการลงทุน เพื่อให้ลดการนำเข้าและเพิ่มมูลค่าในอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศ
ที่มา : The Times of India
-
Thyssenkrupp Steel เยอรมนีอนุมัติแผนปรับโครงสร้างใหญ่
พนักงานของ Thyssenkrupp Steel Europe อนุมัติแผนปรับโครงสร้าง ซึ่งรวมถึงลดกำลังการผลิต, ลดชั่วโมงทำงาน, และปิดโรงงานบางแห่ง แผนนี้คาดว่าจะช่วยประหยัดต้นทุนได้มากกว่าร้อยล้านยูโรต่อปี
ที่มา : Reuters
-
GM Steel (ออสเตรเลีย) เสนอโครงการโรงงานเหล็กเขียว
โครงการโรงงานเหล็ก “green steel mill” มูลค่าราว $450 ล้าน ที่ Toowoomba โดยใช้ EAF รีไซเคิลเศษเหล็ก (scrap) เป็นวัตถุดิบหลัก ลดคาร์บอนประมาณ 85% เมื่อเทียบกับโรงถลุงเหล็กแบบดั้งเดิม
ที่มา : Courier-Mail
🌏 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กไทย
-
จากกลไกของ EU
ไทยอาจเผชิญอุปสรรคทางภาษีหรือนโยบายการนำเข้าจากยุโรปมากขึ้นหากไม่ผลิตเหล็กที่เป็นไปตามมาตรฐาน สิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ
อาจต้องเร่งปรับผลิตภัณฑ์ให้ผ่านเกณฑ์ ESG / Green Steel Roadmap เพื่อให้ยังส่งออกได้อย่างราบรื่น -
แรงสนับสนุนอินเดียต่อเหล็กคุณภาพสูง
ตลาดเหล็กคุณภาพสูงในอาเซียนอาจถูกเติมเต็มจากอินเดียซึ่งปรับตัวไวกว่า ไทยจึงต้องพัฒนาสินค้าเหล็กเฉพาะทาง (specialty steel) เพื่อให้แข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศ -
โครงสร้างอุตสาหกรรมในยุโรป – Thyssenkrupp
การลดกำลังการผลิตและปรับโครงสร้างในยุโรปอาจลดแรงกดดันด้านการนำเข้าเหล็กราคาต่ำจากยุโรปสู่ไทย แต่ก็อาจทำให้วัตถุดิบและชิ้นส่วนสำคัญที่ไทยนำเข้าจากยุโรปมีต้นทุนสูงขึ้นหรือมีความล่าช้า -
โรงงานเหล็กเขียวของออสเตรเลีย
เป็นตัวอย่างชัดเจนของแนวทางที่ไทยสามารถเรียนรู้ — การใช้ EAF, การรีไซเคิล scrap, ลด carbon footprint — หากไทยลงทุนในแนวนี้ อาจเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ลดต้นทุนพลังงาน และเปิดตลาดส่งออกที่ให้ค่าสูงกว่าสินค้าโลหะธรรมดา
✅ สรุป
สัปดาห์นี้มีแนวโน้มที่ชัดเจนในโลกเหล็ก:
-
ยุโรปกำลังเสริมมาตรการคุ้มครองผู้ผลิต
-
อินเดียมุ่งสู่การผลิตเหล็กคุณภาพสูงเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้า
-
ผู้ผลิตยุโรปกำลังลดกำลังการผลิตเพื่อลดต้นทุนและปรับตัว
-
โครงการเหล็ก Green Steel Roadmap ในออสเตรเลียเป็นตัวอย่างที่ดีของการเปลี่ยนผ่าน
สำหรับ ไทย — คือช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเร่ง:
-
พัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อม
-
ลงทุนเทคโนโลยีสะอาด เช่น EAF / Green Steel Roadmap
-
หาตลาดส่งออกใหม่ และลดการพึ่งพาวัตถุดิบนำเข้าที่อาจมีต้นทุนสูงขึ้นในอนาคต
หากสนใจสั่งซื้อเหล็ก EF หรือเหล็กรูปพรรณชนิดอื่นๆ ติดต่อเหล็กทรัพย์ ได้เลยค่ะ

