สหรัฐฯ ส่งสัญญาณใช้มาตรการภาษีเพิ่ม จ่อกระทบตลาดเหล็กทั่วโลก
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมกลับมาใช้มาตรการ “ภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ” อีกครั้ง โดยได้ส่งจดหมายเตือนไปยังพันธมิตรทางการค้า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้เจรจาตกลงเงื่อนไขทางการค้าใหม่ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม
หากไม่มีความคืบหน้า สหรัฐฯ จะดำเนินการ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมสูงถึง 50–70% ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของตลาดโลหะในหลายภูมิภาค และจุดชนวนสงครามการค้าอีกระลอก
📎 แหล่งข่าว: Reuters
สหราชอาณาจักรคุมเข้มโควต้านำเข้าเหล็ก เริ่มใช้ 1 กรกฎาคม
รัฐบาลอังกฤษประกาศใช้โควต้านำเข้าเหล็กรูปแบบใหม่ ซึ่งเข้มงวดกว่าที่เคยประกาศไว้ โดยจะจำกัดการนำเข้าเหล็กจากประเทศต่างๆ ดังนี้:
-
เวียดนาม: ไม่เกิน 20%
-
เกาหลีใต้ และแอลจีเรีย: ไม่เกิน 15%
หากนำเข้าเกินโควตาที่กำหนด จะต้องเสียภาษีนำเข้าสูงถึง 25% โดยนโยบายนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2025 และมีวัตถุประสงค์เพื่อ ปกป้องผู้ผลิตเหล็กในประเทศ จากการแข่งขันด้านราคาที่ไม่เป็นธรรม
📎 แหล่งข่าว: Reuters
มาเลเซียออกภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดกับเหล็กจากเอเชียตะวันออก
มาเลเซียประกาศใช้ มาตรการ Anti-Dumping สำหรับเหล็กเคลือบสังกะสีที่นำเข้าจาก จีน เกาหลีใต้ และเวียดนาม หลังพบว่าผู้ผลิตจากประเทศเหล่านี้มีพฤติกรรมการขายต่ำกว่าต้นทุน ซึ่งกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ
ภาษีที่เรียกเก็บมีอัตราแตกต่างกัน โดยบางบริษัทอาจต้องเสียภาษีถึง 57.9% มาตรการมีผลบังคับใช้ชั่วคราว 120 วัน และอาจขยายต่อหากผลสอบสวนยืนยันการทุ่มตลาด
📎 แหล่งข่าว: Reuters
ไต้หวันเก็บภาษีนำเข้าเหล็กรีดร้อนจากจีน ป้องกันตลาดภายในประเทศ
ไต้หวันเริ่มเก็บ ภาษีต่อต้านการทุ่มตลาด (Anti-Dumping) กับเหล็กแผ่นรีดร้อน (Hot Rolled Coil – HRC) ที่นำเข้าจากจีน โดยอัตราภาษีสูงสุดอยู่ที่ 20.15% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 3 กรกฎาคม 2025 และครอบคลุมระยะเวลา 4 เดือน
การดำเนินการนี้เป็นการปกป้องผู้ผลิตท้องถิ่นจากการแข่งราคาจากจีน ซึ่งส่งผลให้ตลาดเหล็กภายในประเทศเผชิญกับภาวะกำไรถดถอยอย่างต่อเนื่อง
📎 แหล่งข่าว: Reuters
บริษัทเหล็กสหรัฐฯ เปิดสายการผลิตใหม่ในโอไฮโอ ใช้พลังงานไฮโดรเจน
Cleveland-Cliffs หนึ่งในผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดตัวสายการผลิตเหล็กไร้สนิมใหม่ล่าสุดที่รัฐโอไฮโอ โดยใช้ ไฮโดรเจนเป็นแหล่งพลังงานหลัก เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิต
โครงการนี้ใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านดอลลาร์ และมุ่งหวังลดการพึ่งพาการนำเข้าจากฟินแลนด์ รวมถึงยกระดับภาพลักษณ์อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมยุคใหม่
📎 แหล่งข่าว: Steel Market Update
ราคากลีบเหล็กนิ่งแม้ตลาดผันผวนจากนโยบายทั่วโลก
แม้จะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากจีนและการส่งสัญญาณขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ราคากลีบเหล็ก (iron ore) กลับเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยราคาล่าสุดที่ตลาด Singapore Exchange ปิดที่ 95.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเมตริกตัน เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2025
จีนซึ่งเป็นผู้บริโภคหลักของโลก ลดการนำเข้าเหล็กลง 4% ในครึ่งปีแรก สะท้อนอุปสงค์ที่ชะลอตัว แต่ราคายังทรงตัวเนื่องจากสต็อกในประเทศอยู่ในระดับต่ำ
📎 แหล่งข่าว: Reuters
หากสนใจสั่งซื้อเหล็กเอชบีม เหล็กไอบีม เหล็กไวด์แฟรงก์ หรือเหล็กรูปพรรณชนิดอื่นๆ ติดต่อเหล็กทรัพย์ ได้เลยค่ะ

